สารถึงคนหนุ่มสาวผู้กล้าหาญ และคำเรียกร้องต่อศาลเพื่อทรงสถิตยุติธรรม
นับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” และ อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ “แบม” สองนักกิจกรรมรุ่นใหม่ได้ยื่นขอเพิกถอนประกันตัวเอง และประกาศ “อดอาหาร และอดน้ำ” ในอีก 3 วันถัดมา เพื่อเรียกร้องต่อรัฐ ศาลและกระบวนการยุติธรรม ให้คุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งการแสดงออกทางการเมือง อันเป็นไปตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2491 และหลักสิทธิเสรีภาพพลเมืองในรัฐธรรมนูญ 2560 และยังเรียกร้องต่อพรรคการเมืองให้แสดงบทบาทและมีนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนนั้น
บัดนี้อาการของเธอทั้งสองกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต จากการขาดอาหารและน้ำอย่างรุนแรง และทุกนาทีที่ผ่านพ้นไปอาจหมายถึงชีวิต….และน่าเป็นห่วงว่าอาจมีเยาวชนอีกหลายคนที่กำลังตัดสินใจแสดงออกเช่นเดียวกัน การเพิกเฉยละเลยต่อเสียงของประชาชนนี้ จะนำไปสู่โศกนาฏกรรมของสังคมไทย ทั้งๆ ที่การเคลื่อนไหวและข้อเรียกร้องของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ได้แสดงถึงเจตจำนงที่อยากเห็นสังคมไทยมีความเป็นธรรม เป็นสังคมที่น่าอยู่สำหรับคนทุกคนในปัจจุบัน และคนรุ่นพวกเขาที่จะเติบใหญ่ในวันข้างหน้า
การจับกุมคุมขังพวกเขาโดยละเลยสิทธิในการให้ประกันตัว และ/หรือการลงโทษผู้มีความผิดในคดีทางการเมืองอย่างรุนแรงเยี่ยงอาชญากรนั้น เป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายฉบับ และที่สำคัญ เป็นการทำลายอนาคตของลูกหลานเราเอง ทำลายความเป็นพลเมืองของคนรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายอันดีงามต่อประเทศชาติ
ขอให้ศาล กระบวนการยุติธรรม กลไกของรัฐ และสถาบันที่เกี่ยวข้อง ไม่เพียงแต่เคารพสิทธิมนุษยชนและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง โดยการพิจารณาให้การประกันตัวจำเลยในคดีทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจำนวน 16 คน เท่านั้น แต่โปรดเห็นแก่ชีวิตของลูกหลานเหล่านี้ อย่าได้ผลักไสพวกเขาและเธอซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ ออกไปจากการมีส่วนร่วมทางการเมือง อย่าได้ทำลายพลังของพลเมืองรุ่นใหม่เหล่านี้ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสังคมไทยให้เป็นอารยะอย่างที่ผู้ใหญ่อย่างพวกเราปรารถนา
บัดนี้เราได้ยินเสียงและรับรู้ข้อเรียกร้องของแบมและตะวัน และเชื่อแน่ว่าการแสดงออกอย่างกล้าหาญด้วยสันติวิธีของเธอจะปลุกมโนธรรมสำนึกของพวกเราอีกหลายคนให้ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิมนุษยชน และคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เฉกเช่นที่เธอและคนหนุ่มสาวได้แสดงให้เห็นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เราขอแสดงความเคารพต่อการตัดสินใจและการยืนหยัดต่อสู้อย่างกล้าหาญของพวกเธอและมิตรสหาย และหวังอย่างยิ่งว่าพวกเราทั้งหลายจะได้รับเกียรติและมีโอกาสได้ร่วมต่อสู้กับเธอทั้งสอง เพื่อให้ได้มาซึ่งสังคมไทยที่เคารพต่อคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกทางการเมือง โดยวิถีประชาธิปไตย ที่เราต่างยึดถือนั้นร่วมกัน
วันที่ 31 มกราคม 2566
เรื่องโดย มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม และเครือข่ายฯ