โดย สุดารัตน์ เหมศิริรัตน์ (เจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม)
วันนี้จะมารีวิวประสบการณ์เรียนในมหาวิทยาลัย ประเทศสหรัฐอเมริการะยะเวลา 1 เดือน
ฟรีตั้งเเต่นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปจนถึง Washinton DC (มีเงินให้กินให้ใช้รวมๆ เเล้วกว่า 50,000 บาท)
ทุนแลกเปลี่ยนแบบให้เปล่านี้มีชื่อว่า Young Southeast Asian Leaders Initiative (YSEALI) รุ่น academic fellowship เป็นโครงการที่มุ่งพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของเยาวชน
โดยทางทุนนี้จะมีทั้งหมด 3 ธีมให้เราเลือกสมัคร คือ Civic Engagement, Environmental Issue, Social Entreprenuership and Economic Development)
โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดรับสมัคร 2 รอบในแต่ละปี คือรอบ Spring และ Fall
ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเข้าร่วมโครงการในธีม Civic Engagement รอบ Fall 2023
โดยมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้ผู้ผ่านการคัดเลือก (จาก 10 ประเทศในอาเซียน) ได้ไปเรียนจะมี 2 ที่สำหรับธีมนี้ คือ University of Nebraska at Omaha และ Portland State University ซึ่งที่ได้รับการคัดเลือกไปนั่นก็คือมหาวิทยาลัยประจำเมือง Nebraska (เวลาพูดถึงเมืองนี้ก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่าไหร่ เเต่เป็นเมืองที่น่ารักมากๆ)
ในระยะเวลา 1 เดือนเราสามารถเข้าถึง สิ่งอำนวยความสะดวก (facilities) ของทางมหาลัยได้ทุกอย่าง เช่น ยิม, ห้องสมุด, ขนส่งสาธารณะ หรือเเม้แต่บริการให้คำปรึกษาแบบฟรีๆ และบ่อยครั้งครั้งก็มี event อาหาร, กีฬา, ละครเวทีให้ได้ดูกัน
อีกอย่างที่เป็นประโยชน์มาก เเละเป็นเครื่องมือช่วยให้เราได้ทำความรู้จักตัวเองมากขึ้น ก็คือทางโครงการจะให้ทำแบบประเมิน (ไม่ต้องเสียเงินเอง) ดูว่าตัวเองมีจุดแข็งอะไรเพื่อนำจุดแข็งเหล่านี้ไปใช้พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำของเราต่อ และครั้งนี้ก็มานั่งแนะนำเรากันแบบตัวต่อตัว
ในแง่ของเนื้อหาเชิงวิชาการที่ต้องเข้าคลาสก็สนุกมากๆ เป็นประสบการณ์ที่ได้ไปนั่งเรียนในมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่เรื่องที่สอนเป็นเรื่องการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมตามชื่อธีมที่เลือกไป เช่น Social Entrepreneurship & Social Movement, Power Privilege, Participatory Budgeting, Nonprofit Fundraising หรือ Storry Telling เเละมีบางคลาสที่นักศึกษามานั่งเรียนด้วย หรือเราเองก็ปรึกษาอาจารย์เพื่อหาเวลาว่างไปนั่งเรียนร่วมกับนักศึกษาบ้านเขาในวิชาที่เราสนใจได้เลย บรรยากาศของคลาสเรียนทุกคลาสทำให้รู้สึกว่าที่เป็นพื้นที่เปิด สามารถแลกเปลี่ยนกันได้แบบไม่โดนตัดสินความคิดความอ่าน เเละอาจารย์จะย้ำอยู่เสมอว่าอาจารย์ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง หลายๆ เรื่องก็ยังต้องเรียนรู้จากพวกเรา
เเต่ละสัปดาห์ ทางโครงการจะพาเราออกไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หรือสถานที่ทางประวัติศาสตร์, พาไปทำกิจกรรม Adventure, ออกไปเจอองค์กรที่ทำงานทางด้านสังคม ออกไปทำงานอาสาสมัคร กระทั่งพาเราไปเยี่ยมเยือนสถานที่ทำงานของราชการ หรือแม้กระทั่งว่าถ้าเราสนใจในประเด็นอะไรเป็นพิเศษก็ขอให้อาจารย์ช่วยพาไปได้ อย่างตัวน้ำตาลอยากเรียนรู้เรื่อง “คนไร้บ้าน” อาจารย์ก็พาไป Siena Francis House ซึ่งเป็นที่พักพิงของคนไร้บ้านแบบครบวงจร
ก่อนจบเนื้อหาเชิงวิชาการ จะต้องนำเสนอ Action Plan ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่คิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับชุมชนที่เราอยู่ หรืออาจจะเป็นโปรเจกต์ที่เรามีแรงผลักดันที่อยากจะทำมากๆ เพราะหลังจากที่กลับไปยังประเทศของตัวเอง ทางโครงการจะเปิดรับโอกาสให้เหล่า Alumni ขอทุนเพื่อให้ทำโปรเจกต์นั้นได้ อย่างน้ำตาลได้นำเสนอโปรเจกต์ผ้าอนามัยฟรีในกลุ่มผู้หญิงที่ประสบภาวะไร้บ้าน
หลังจากหมดเวลาชีวิตในมหาวิทยาลัย 4 สัปดาห์ ทางโครงการพาไป New York City เเละไปต่อที่ Washinton DC เพื่อเข้าร่วมพิธีรับใบจบโครงการแลกเปลี่ยนครั้งนี้
ถือว่าเป็นประสบการณ์และโอกาสที่ดีที่จะเจอเพื่อนใหม่ กว่า 10 ประเทศอาเซียน ที่ต่างคนต่างมีความเฉพาะและมีความเป็นผู้นำสูง รวมถึงได้ออกไปพบเจอโลกใบใหม่ที่รอให้เราได้ค้นหาไกลถึงอีกทวีปแบบฟรีเลย
อ่านข้อมูลเกี่ยวกับทุนนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://th.usembassy.gov/fall-2024-yseali-academic-fellowship/?fbclid=IwAR1PU8zzY9qRn5Z_aQNPKlVrzUfYCKAx-h2ciByzNpIXCtJofwY3A0ANoYY
หรือติดตามข่าวสารได้ที่เพจ U.S. International Exchange Alumni – Thailand