หลังหมดวาระ 1 ปี น้องฝ้าย ศิวาพร ฝอดสูงเนิน อาสาสมัครนักสิทธิ์ฯรุ่น 9 ไม่ได้ทำงานที่ “มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ภาคเหนือ” หรือ Sustainable Development Foundation (SDF) ต่อ แต่มอส.เชื่อมั่นเสมอว่า สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากกระบวนการทำงานวาระ 1 ปี ไม่มีทางหายไปไหน แต่จะเป็นแสงส่องทางที่มีอิทธิพลต่อชีวิตและการทำงานหลังจากนี้ แม้จะหมดวาระอาสาสมัครไปแล้วหรือไปทำงานในสาขาวิชาชีพอื่นๆ
อ่านบทสัมภาษณ์สั้นๆ แต่มีความหมายของน้องฝ้ายได้ที่นี่
Q: รู้สึกอย่างไรที่ครบวาระหนึ่งปีแล้ว
A: ก็รู้สึกใจหายนะคะ เพราะเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เรารู้สึกว่าบรรยากาศที่ SDF มันเหมือนครอบครัว เราอยู่กันมาตั้งปีหนึ่ง พอครบวาระก็รู้สึกใจหาย ใจหนึ่งมันก็ไม่อยากออก ใจหนึ่งมันก็เราออกมาตั้งต้นของเราใหม่ดีกว่า เพราะสิ่งที่จะได้ก็คือ เราได้ประสบการณ์ ได้ออกไปเรียนรู้โลกภายนอก แล้วมันจะมีประโยชน์กับเราในอนาคต ในฐานะคนเรียนกฎหมายและจะใช้กฎหมายทำมาหากิน มันก็จะมีประโยชน์ ในการมองคนที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมาย และเขาได้รับความอยุติธรรมจากการบังคับใช้กฎหมาย เราก็จะเห็นอกเห็นใจเขามากขึ้น
Q: มีความประทับใจอะไรในการเข้าร่วมกระบวนการกับเพื่อนๆ
A: รู้สึกดี คือเพื่อนอยู่ในวงการนักสิทธิ์ที่หลากหลายสาขา หลายเรื่อง พอเวลามาเจอกันก็ได้มาแชร์ประสบการณ์หลายอย่าง นอกจากเปิดโลกทัศน์เห็นในจุดที่เราทำงานอยู่แล้ว เรายังเห็นด้านอื่นๆ ที่มันได้รับผลกระทบการจากใช้อำนาจรัฐ ได้รับการกระทบสิทธิ์อะไรอย่างนี้เช่นกัน มันทำให้เราไม่ได้มองโลกไม่ใช่แค่ด้านเดียวว่า โลกมันต้องเป็นอย่างนี้นะ คือไอ้เรื่องสิทธิ์นี่มันกระทบ แต่ในสิทธิ์อีกด้านหนึ่งมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ มันก็เกิดการตั้งคำถามว่า แล้วมันสมควรเป็นอย่างไร แล้วเราควรทำอย่างไรให้ผลมันออกมาดีสำหรับทุกฝ่าย
.
Q: อยากแนะนำอะไรเกี่ยวกับคนหนุ่มสาวที่อยากมาเป็นอาสาสมัคร
A: อยากแนะนำให้เราลองมาหาประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงดู เอาง่ายๆ อย่างคนที่เรียนนิติศาสตร์ เรียนจบ 4 ปี ก็มาเรียนเนติบัณฑิตต่อ มาสอบตั๋วทนาย เขาไม่ได้เรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริงเลยว่า โลกข้างนอกมันเป็นอย่างไร ส่วนหนึ่งของคนกลุ่มนี้เขาต้องไปเป็นผู้พิพากษาเป็นอัยการ ที่เขากำชะตาชีวิตของคนบางกลุ่มไว้ในมือ ฉะนั้นเขาต้องมาเรียนรู้โลกภายนอกว่า “เฮ้ย! บางทีชีวิตมันมีอะไรมากกว่าแค่ประมวลกฎหมายอะไรอย่างนี้ มันเป็นอะไรที่ให้ประโยชน์มากๆ และมันเป็นแนวทางที่จะพัฒนากระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทยได้คะ”