โครงการอาสาสมัครเพื่อสังคม (คอส.) ก่อตั้งในปี 2523 (เป็นมูลนิธิในปี 2529) ตั้งขึ้นโดยข้อตกลงของ 19 องค์กรพัฒนาเอกชน และแนวคิดการสร้างอาสาสมัครไทย โดยคณะบุคคลร่วมก่อตั้ง อาทิ คุณหญิงอัมพร มีศุข อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์  อาจารย์โคทม อารียา  ฯลฯ  เพื่อให้ คอส.ทำหน้าที่เป็นองค์กรสนับสนุนความเข้มแข็งให้กับองค์กรพัฒนาเอกชน  อาจารย์จอน อึ๊งภากรณ์ ได้รับการสัมภาษณ์จากคณะผู้ก่อตั้งให้เป็นผู้อำนวยการคนแรก   

สถานการณ์ ในช่วงที่ก่อตั้ง คอส.นั้น องค์กรพัฒนาเอกชนเล็กๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ขาดกำลังคน ขาดการประสานงาน  ขาดทุนทรัพย์ในการดำเนินงาน ประชาชนยังไม่เข้าใจงานเอ็น จี โอ ดังนั้น ภารกิจของ คอส. จึงมิใช่มีเพียงงานอาสาสมัคร แต่ยังทำหน้าที่เสริมสร้างการรวมตัวขององค์กรต่างๆ  จัดทำทำเนียบองค์กรพัฒนาเอกชนฉบับแรก จัดทำจดหมายข่าวสื่อสารงานพัฒนา จัดอบรมเสริมสร้างบุคลากร ภารกิจเหล่านี้ อาจารย์จอน และทีมเป็นผู้บุกเบิก ที่มีบทบาทสำคัญ ควบคู่ไปกับการรับอาสาสมัคร เสริมสร้างความคิด การวิเคราะห์ อุดมคติเพื่อไปทำงานในโครงการต่างๆ

ช่วงประมาณ 10 ปี ที่ มอส. (2523-2533) อาจารย์จอน มีบทบาทสำคัญในการประสานให้เกิด คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ซึ่งมีทั้งระดับชาติ และระดับภาค เพื่อเป็นหน่วยประสานงานที่เข้มแข็งของเอ็นจีโอ มีบทบาทในการตั้งคณะกรรมการเผยแพร่และส่งเสริมงานพัฒนา (ผสพ.) ซึ่งทำหน้าที่ในการเผยแพร่งานพัฒนา  อาจารย์จอน ออกเดินทางไปร่วมสัมมนากับเอ็นจีโอทั่วทุกภาค ลงพื้นที่ไปติดตามอาสาสมัคร ร่วมแลกเปลี่ยน ร่วมวิเคราะห์  มีบทบาทในการเชื่อมทุนสนับสนุนจากต่างประเทศให้กับองค์กรพัฒนาเอกชนหลายแห่ง อาจารย์จอนจึงเป็นที่คุ้นเคยกับเอ็นจีโอทั่วประเทศ ด้วยบุคลิกที่เป็นกันเอง อ่อนน้อม ร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ ร่วมแก้ไข หาทางออก ร่วมทำ ร่วมเคลื่อนไหวแก้ปัญหาต่างๆอย่างจริงจัง อาจารย์จึงเป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับให้เป็นผู้แทนขององค์กรพัฒนาเอกชน ได้รับการเคารพรักอย่างจริงใจ อาสาสมัครหลายคนที่ครบวาระก็ยังทำงานต่อเนื่องและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในสังคม นับเป็นฐานสำคัญในการต่อยอดการทำงานเพื่อสังคมในหลากหลายประเด็น ต่อจากงาน มอส. อาจารย์จอนยังมีบทบาททางสังคมริเริ่มงานต่างๆอีกมากมาย

อาจารย์จอนได้วางรากฐานในการสร้างความมั่นคงให้กับ มอส. ได้เตรียมการซื้อที่ดิน เตรียมการก่อสร้างอาคารโดยมีแนวคิดให้เอ็นจีโอต่างๆ มาอยู่รวมกัน มีห้องประชุมใหญ่สำหรับสัมมนาวิเคราะห์สถานการณ์ ร่วมหาทางออกให้สังคม และเป็นที่แถลงข่าว อาจารย์ได้เขียนโครงการขอทุนต่างประเทศจากแหล่งต่างๆ รวมกันจนได้สร้างอาคาร เป็นที่ตั้งของ ถาวรของ มอส. ตั้งแต่ปี 2537 จนถึงทุกวันนี้ 

ในฐานะของอาสาสมัครรุ่น 2 และเจ้าหน้าที่ มอส. ที่ได้ร่วมงานกับอาจารย์จอน ถือเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เรียนรู้งานจากอาจารย์จอน ได้สืบต่อบทบาทผู้อำนวยการ มอส. คนที่ 3 และส่งต่อไปยังผู้อำนวยการคนที่ 4 และที่  5   

ในตอนประมาณ 7 โมงเช้าของวันที่ 13 พฤษภาคม 2568  นิมิตร์ โทรแจ้ง ข่าวการจากไปของ อาจารย์จอน รู้สึกอึ้ง ใจสะเทือน ช่วงสี่โมงเย็นผู้คนหลากหลายวัยไว้ไปรวมกันที่วัดบางเพ็งใต้  ไปร่วมในพิธีรดน้ำ เคารพอาจารย์เป็นครั้งสุดท้าย แม้ร่างกายอาจารย์จะนอนนิ่ง ไม่มีลมผ่านเข้าออกร่างกาย  และกำลังจะสูญสลายไปในที่สุด  แต่สิ่งที่คงอยู่ ไม่สูญสลายตามไปคือ  แรงบันดาลใจ  ความรัก ความรำลึกถึงความคิด ความสัมพันธ์  บทบาทการทำงาน  คำพูด  รอยยิ้ม ความดึงดัน ความกล้าท้าทาย ไม่ยอมจำนน อันมาจากจุดยืน และอุดมการณ์ที่หนักแน่น เพื่อสังคมเท่าเทียม  สังคมประชาธิปไตย  สังคมที่ยอมรับความหลากหลาย ให้โอกาสกับคนทุกกลุ่ม  ผู้ด้อยโอกาสต้องมีพลังและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและสร้างสังคม  เราเชื่อว่าอุดมการณ์ ของอาจารย์จอน ได้แทรกซึมไปแล้วในร่างกายและจิตใจของคนรุ่นต่างๆ และพร้อมจะส่งไปยังคนรุ่นต่อๆไป    

ด้วยจิตคารวะ

กรรณิกา ควรขจร

อาสาสมัครเพื่อสังคมรุ่น 2, อดีตผู้อำนวยการมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม

เรื่องโดย มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม และเครือข่ายฯ

Find the right project for me
en_USEnglish