ด้วยเหตุผลด้านภาระหน้าที่บางประการ ทำให้ฉันเข้าร่วมกิจกรรมในหลักสูตรคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม รุ่น 2 ได้แค่สองครั้ง (module 1 – 2) จะเรียกว่าไม่ผ่านหลักสูตรก็พูดได้.. แต่นั่นก็คงไม่ใช่สาระสำคัญเพราะฉันมั่นใจว่าฉันได้อะไรมากกว่าที่ฉันคิดและหวังไว้
โครงการนี้สร้างความประหลาดใจให้ฉันตั้งแต่เริ่มเขียนใบสมัคร มันเป็นครั้งแรกที่ฉันต้องกรอกใบสมัครเพื่อขอเข้ารับการอบรม ต้องตอบคำถามจำนวนมาก เขียนร่ายยาวกว่าเขียนรายงานส่งครูตอนประถม ไหนยังต้องผ่านการสัมภาษณ์อีก นี่มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ท้าทายฉันมาก และมันท้าทายขึ้นอีก เมื่อได้เจอกับเพื่อนพี่น้องคนรุ่นใหม่ ที่มีความหลากหลายอย่างสูง ทั้งทางด้านถิ่นที่มา ภาษา วัฒนธรรม เพศ อายุ ความเห็นทางการเมือง งาน ฯลฯ แต่ฉันเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคืออยากเห็นสังคมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีตามแนวทางของตัวเอง ที่ฉันอาจจะไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยสัมผัส เพราะมัวแต่งุ่นง่านอยู่กับหน้างานและแนวทางของฉัน จนบางครั้งฉันก็เผลอลืมฟังเสียงของคนอื่นไปบ้างเหมือนกัน
การมา ณ ที่นี้ ทำให้ฉันได้ฟัง ฟัง และฟัง ฟังในเรื่องที่ไม่เคยฟัง ฟังในเรื่องที่ฉันเคยคิดว่าไม่จำเป็นต้องฟัง ฟังคนที่ไม่ค่อยได้ฟังแม้จะอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก มันทำให้ฉันตกผลึกได้ว่าการฟังแบบไม่มีเงื่อนไง ฟังแบบไร้มายาอคติ ไม่ต้องมีเหตุผลในการฟัง ฟังแล้วไม่ตัดสิน หรือการฟังด้วยใจนั้นมันหอมหวาน สวยงาม และมีคุณค่าไม่น้อย วันนี้ฉันจึงพร้อมที่รับฟังผู้คนอย่างตั้งใจ และไร้เงื่อนไข
———————————————
เป้า – ธีรภัทร์ คหะวงศ์/คนรุ่นใหม่ กรุงเทพฯ : เขียน
โครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม